|
News
|
ทศท
ส่งโทรมือถือ 1900 ลงตลาดเต็มตัวต้น พ.ย.นี้
|
ไออีซีเปิดตลาดโทร 1900 จับลูกค้าโทรบ้าน
ไออีซี ขานรับ ทศท ส่งโทรมือถือ 1900 ลงตลาดเต็มตัวต้น
พ.ย.นี้ เตรียมเครื่องล็อตแรกไว้ 100,000 เครื่อง
มั่นใจมีตลาดอยู่ในมือแน่ๆ จากฐานลูกค้าโทรศัพท์บ้าน
3.5 ล้านราย
นายจเรรัฐ ปิงคลาศัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้อำนวยการ
บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิล เอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน)
หรือไออีซี กล่าวว่า บริษัทเตรียมเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่
ระบบ 1900 เมกะเฮิรตซ์ไว้ประมาณ 100,000 เครื่อง สำหรับรับการเปิดตัวบริการดังกล่าว
อย่างเป็นทางการของบริษัท ไทยโมบาย จำกัด ที่เป็นการร่วมทุนระหว่างการสื่อสารแห่งประเทศไทย
(กสท.) และบริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ส่วนกลุ่มตลาดเป้าหมาย จะมุ่งไปยังฐานลูกค้าที่ใช้โทรศัพท์พื้นฐานของ
ทศท ทั่วประเทศจำนวน 3.5 ล้านราย ในปัจจุบัน โดยชูจุดเด่นในการจัดสรรเลขหมายให้ลูกค้า
เป็นเลขหมายเดียวกันทั้งโทรศัพท์บ้าน และโทรศัพท์เคลื่อนที่
ทางด้านราคาเครื่องลูกข่ายนั้น ยังไม่พร้อมเปิดเผย
แต่มั่นใจว่าจะไม่ได้อยู่ในระดับสูงอย่างที่ผ่านมา
เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่ "จังหวะดี"
และเทคโนโลยีวิ่งทันกับตลาด ทำให้มีเครื่องหลายยี่ห้อที่เตรียมออกสู่ตลาด
โดยผู้ผลิตเครื่องลูกข่ายต่างก็ปรับสายการผลิตสู่เครื่องในระบบ
"ไตรแบนด์" ที่รองรับได้ทั้งจีเอสเอ็ม,
1900 และ 1800 ดังนั้นเครื่องรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมา จะสามารถทำตลาดได้ในวงกว้าง
(แมส) โดยไม่จำกัดอยู่กับระบบใดระบบหนึ่ง ทำให้ราคาเครื่องลดลงด้วยขณะที่นายศิริชัย
ลาภมหานนท์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่
บริษัทเดียวกัน กล่าวว่า จะเห็นภาพราคาของเครื่องลูกข่ายรุ่นไตรแบนด์
ที่เริ่มเข้าสู่ "แมส" มากขึ้น ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
เนื่องจากโรดแมปจากผู้ผลิตออกมาชัดเจนแล้ว ทำให้มีเครื่องหลากหลายรุ่น
และยี่ห้อมากขึ้น
"ปัจจัยผลักดันครั้งนี้ มาจากทั้งด้านเทคโนโลยี
และความตั้งใจที่จะทำให้ทำตลาดได้ทั่วโลก เพื่อทำให้เกิดการใช้งานข้ามโครงข่าย
(โรมมิ่ง) ได้อย่างสมบูรณ์ จากที่ผ่านมา โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ
1900 จะอยู่ในประเทศที่ไม่มีจีเอสเอ็ม เช่นในสหรัฐอเมริกา
เท่านั้น" นายศิริชัยกล่าว นอกจากนี้ คาดว่าตั้งแต่กลางปีหน้า
โทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรุ่นที่ออกมา จะมีคุณสมบัติพื้นฐานหลักๆ
ได้แก่ เป็นจอสี, ไม่มีเสาอากาศ, รองรับเอ็มเอ็มเอส
และแวพ ซึ่งจะสนับสนุนการช่วยให้ความรู้กับตลาดในการใช้งานด้าน
non voice application ในเบื้องต้น และเป็นรากฐานในการเข้าไปใช้งานที่เป็นบริการด้านข้อมูล
(ดาต้า แอพพลิเคชั่น) ต่อไป
นายศิริชัยกล่าวว่า บริษัทยังเตรียมให้ความสำคัญกับการขยายช่องทางตลาด
ในส่วนของตลาดค้าปลีก (รีเทล) มากขึ้น โดยเฉพาะผ่าน
"โมบาย อีซี่ ช็อป" ซึ่งขณะนี้มีประมาณ
100 สาขา โดยเป็นการลงทุนของบริษัทเอง และเตรียมขยายเพิ่มให้ครบ
200 แห่งในปีนี้ รวมทั้งมีแผนจะเริ่มเปิดร้านดังกล่าวในรูปแบบแฟรนไชส์
ตั้งแต่ปลายปีนี้ด้วย โดยมองว่าจะเป็นหนึ่งในปัจจัยให้เข้าไปใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น
และสอดคล้องกับการขยายตัวของตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่
|
|
|
|
|